ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก

Home »  trip »  people »  ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก

On July 15, 2015, Posted by , In people, By ,,, , With Comments Off on ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก

ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก

วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ ฐาวันต์ รงคพรรณ ชายหนุ่มที่ผ่านร้อนผ่านฝนมาเพียงไม่นานแต่เค้าได้ผ่านเรื่องราวมามากมาย จากคนที่เคยเรียนวิศวะได้กลายมาเป็นครูสอนดนตรี จากเรียนอยู่ที่เมืองไทยต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอก จากเป็นคนกรุงเทพฯได้ไปเริ่มทำงานที่พังงา ผ่านทางแยกของชีวิตหลายครั้งที่ต้องใช้ความกล้าอย่างมากในการตัดสินใจ เราจะมาฟังเรื่องราวความคิดความกล้าในการเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเค้ากัน

ฐาวันต์ รงคพรรณ

ฐาวันต์ รงคพรรณ ความกล้ากับทางเลือก

เด็กศิลป์คำนวณสอบเข้าวิศวะ

ฐาวันต์ รงคพรรณ ดูเป็นชายหนุ่มสบายๆเค้าเล่าให้ฟังว่า เค้าเป็นเด็กธรรมดาที่มีความชอบในรถยนต์เลยได้ตัดสินใจว่าจะเรียนต่อด้านวิศวะยานยนต์ แต่ติดที่ตัวเค้าเองดันเรียนมาในห้องศิลป์คำนวณซึงไม่ได้เรียนพวกฟิสิกส์หรือวิชาของสายวิทย์เลย ตอนนั้นเค้าก็ได้คิดและศึกษาว่าควรจะทำยังไงดี? ควรจะทำตามสิ่งที่เค้าชอบมั้ย? เค้าก็ได้ศึกษาข้อมูลทำให้ได้รู้ว่าการจะสอบเข้านั้นเป็นการสอบตรงโดยต้องใช้เกรดเฉลี่ย และคะแนนสอบ 3 วิชา ด้วยความชอบและความกล้าเค้าก็เลยตัดสินใจใจที่จะสอบ ซึ่งเค้าก็คิดว่าจะใช้วิชาเลขกับอังกฤษให้ผ่าน 2 ใน 3 วิชาได้ สุดท้ายเค้าก็สามารถสอบติดเข้าไปเรียนได้ตามที่หวัง แต่ตอนที่เรียนเค้าก็ยังต้องปรับตัวอีกเยอะ ขยันมากกว่าคนอื่นเพื่อเรียนตามให้ทันเพื่อน และทดแทนวิชาทางสายวิทย์ที่เค้าไม่เคยได้เรียนเลย

Thawan Rongkapan

ฐาวันต์ เล่าให้ฟังถึงชีวิตในวัยเรียน

จากวิศวกรสู่ครูสอนดนตรี

ด้านดนตรี ฐาวันต์ รงคพรรณ ได้เริ่มเรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็กประมาณ 10 ขวบและได้เล่นเรื่อยมา ระหว่างเรียนเปียโนที่ Eurhythmics Center เค้าได้เดินผ่านห้องเรียนแล้วได้เห็น ครูปูเป้ (อ.นิลวรรณา อึ้งอัมพร) สอนดนตรีเด็กๆแล้วดูสนุกมาก ความสนุกของเด็กๆที่เรียนดนตรีกับ ครูปูเป้ ทำให้เค้าประทับใจคิดว่าตอนเราเด็กๆถ้าได้เรียนอย่างนี้บ้างคงสนุกดี จนตอน ม.4-5 ครูปูเป้ ขอให้เค้ามาช่วยสอนดนตรีเลยได้มาเป็นครูผู้ช่วยสอนเด็กเรื่อยมา จนเข้ามหาลัยปี3 เค้าได้ไปเยี่ยมชมดูโรงงานประกอบรถยนต์ และได้รู้สึกว่าชีวิตวิศวกรที่การทำงานเป็นระบบดูไม่เหมาะกับเค้าเลยแต่ก็เก็บเอาไว้ในใจ

Thawan Rongkapan

ฐาวันต์ ประทับใจในความสนุกของเด็กๆเมื่อเรียนดนตรีกับ ครูปูเป้

จนในวันนึงมีนักเรียนญี่ปุ่นได้มาขอให้ ครูปูเป้ ช่วยทำการสอบเพื่อจะไปเรียนต่อด้าน Eurhythmics ซึ่งบังเอิญวันนั้น ฐาวันต์ ก็ได้มาเป็นผู้ช่วยสอนอยู่พอดี ครูปูเป้ ก็ได้ให้เค้ามาลองดูการสอบครั้งนั้น ทำให้ได้เห็นได้พูดคุยกับนักเรียนที่มาสอบและได้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อดนตรีทางด้านนี้ทำให้เค้าสนใจเป็นอย่างมาก เค้าได้เก็บเอาไปคิดและได้ปรึกษาคนรอบข้าง ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยแต่ก็อยากให้เค้าเรียนวิศวะให้จบก่อนแล้วค่อยไปเรียนต่อทางดนตรี สุดท้ายเค้าก็ตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเลย เค้าคิดว่ามันคงดีกว่าที่จะเสียเวลาเรียนในสิ่งที่เค้าไม่คิดจะเอาไปทำงานในอนาคต สู้รีบได้เริ่มเรียนด้านดนตรีที่เค้าชอบแล้วได้กลับมาทำงานที่เค้ารักเร็วๆดีกว่า

ฐาวันต์-ครูปูเป้

ฐาวันต์ กับ ครูปูเป้ (อ.นิลวรรณา อึ้งอัมพร)

เรียนที่กทม.มาต่อที่เจนีวา

ที่ ฐาวันต์ รงคพรรณ ตัดสินใจไปเรียนดนตรีที่ L’ Institut Jaques Dalcroze เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนหนึ่งเพราะค่าเล่าเรียนที่ถูกมากๆตกปีละ 30,000 บาท แต่ค่ากินอยู่ก็ยังแพงอยู่เค้าเลยพยายามหางานพิเศษทำไปด้วยทั้งทำที่ร้านอาหาร พอเริ่มพูดได้ก็ไปสอนดนตรี สอนเลข สอนภาษาอังกฤษ ไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเป็นพ่อครัวที่ค่ายหน้าร้อน

ฐาวันต์-เจนีวา

ฐาวันต์ ตอนไปเรียนดนตรีที่ L’ Institut Jaques Dalcroze เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์

ตอนเรียนก็ยากมากต้องเรียนเป็นภาษาฝรั่งเศสหมดแต่ ฐาวันต์ ก็กล้าที่จะมาก่อน แรกเริ่มเค้าก็ยังพูดไม่ได้แต่ได้ครูและเพื่อนๆใจดีก็ช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ และโชคดีที่วิชาส่วนใหญ่เป็นวิชาปฏิบัติ เค้าก็เลยลงแต่วิชาพวกนี้ก่อนในปีแรกแล้วค่อยลงพวกวิชาที่ต้องใช้ภาษาในปีหลังๆแทนเมื่อเค้าพร้อมกว่านี้

ฐาวันต์_เจนีวา

ชีวิตความเป็นอยู่ ฐาวันต์ ตอนอยู่ที่เจนีวา

ความเป็นอยู่ก็ต่างกันมาก อาหารไทยหายากอาหารตามร้านอาหารก็ราคาแพง ร้านค้าที่โน่นทุ่มนึงก็ปิดกันหมดวันอาทิตย์ก็ไม่เปิดเลย มีครั้งนึง ฐาวันต์ เคยลืมซื้อของตุนไว้แต่ยังดีได้เพื่อนๆช่วยโดยชวนเค้าให้กินข้าวด้วยกัน ตอนอยู่ที่โน่นเค้าก็ได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทยในปีแรกเพราะทนคิดถึงบ้านไม่ไหวจริงๆ แต่พอปีหลังๆเค้าก็คิดได้ว่าค่าตั๋วกลับแพงขนาดนี้สู้เอาค่าตั๋วไปเที่ยวรอบๆยุโรปจะได้กล้าไปเปิดหูเปิดตาได้ประสบการณ์มากกว่า

Thawan-travel

ฐาวันต์ ขณะท่องเที่ยวรอบๆยุโรป

หนุ่มเมืองกรุงไปสอนเด็กที่พังงา

หลังเรียนจบกลับมา ฐาวันต์ รงคพรรณ ได้ไปเจอเพื่อนที่จะนำเงินไปบริจาคให้ โรงเรียนเยาววิทย์ จังหวัดพังงา บังเอิญวันนั้นที่โรงเรียนได้พาเด็กมาทัศนศึกษาที่กรุงเทพ เพื่อนและเค้าจึงได้ไปเจอคุณครูเพื่อนำเงินไปมอบให้ หลังจากมอบเงินแล้วคุณครูก็ได้พูดคุยแนะนำถึงโรงเรียนที่ก่อตั้งมาจากโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ซึ่งทำให้เค้าประทับใจในตัวโรงเรียนมาก นอกจากนั้นคุณครูยังได้เปรยๆว่ากำลังหาครูสอนดนตรีอยู่โดยที่ไม่รู้ว่า ฐาวันต์ นั้นสอนได้ ตัวเค้าก็ได้เก็บความสนใจนี้ไว้และไปบวช หลังบวชออกมาเค้าจึงได้ตัดสินใจโทรติดต่อไปที่โรงเรียนเพื่อเริ่มความฝันของเค้า

ฐาวันต์ รงคพรรณ

ฐาวันต์ เล่าให้ฟังถึงตอนไปสอนเด็กๆที่พังงา

สังคมพังงาที่โรงเรียนตั้งอยู่เป็นชีวิตที่เงียบสงบใกล้ชิดธรรมชาติและวิวสวยมาก แรกเริ่ม ฐาวันต์ ได้ไปเป็นครูสอนดนตรี หลังจากนั้นจากนั้นเมื่อครูขาดเค้าก็ไปช่วยเป็นครูสอนเลข ได้เป็นครูประจำชั้น และได้อาสาไปดูแลเด็กอนุบาลที่เค้าสอนดนตรีให้อยู่แล้วด้วย ชีวิตที่นั่นเป็นชีวิตที่เรียบง่ายให้ความรู้สึกเหมือนที่เจนีวาซึ่งเค้าชอบมาก

ฐาวันต์-เปียโน

ฐาวันต์ ได้เล่นเปียโนให้ฟังหลังพูดคุยกัน

กล้าที่จะเปลี่ยน เพื่อสิ่งที่รัก

จากที่ได้พูดคุยกับ ฐาวันต์ รงคพรรณ ทำให้รู้สึกว่าเค้าเป็นคนมีความคิดเป็นของตนเองกล้าตัดสินใจ เมื่อต้องเจอทางแยกของชีวิตเค้าจะใช้สมองรวบรวมข้อมูลเก็บเอาไปคิด จากนั้นจะใช้ใจและความกล้าในการตัดสินใจเปลี่ยนหรือเลือกเส้นทางชีวิตนั้นๆของเค้า แล้วใช้ความรักและความพยายามในการทำเพื่อมุ่งมั่นไปในเส้นทางที่เค้าได้เลือกไว้

ฐาวันต์ รงคพรรณ

ฐาวันต์ ความกล้ากับแนวคิดของเค้า

Eurhythmics Center

ขอขอบคุณ ครูปูเป้ (อ.นิลวรรณา อึ้งอัมพร) ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ Eurhythmics Center ในการพูดคุยครั้งนี้